สาระน่ารู้ » จริงหรือหลอก พ่นกันสนิมรถยนต์ จำเป็นไหม

จริงหรือหลอก พ่นกันสนิมรถยนต์ จำเป็นไหม

19 เมษายน 2025
17   0

พ่นกันสนิมรถ จำเป็นไหม

หรือเป็นแค่กลยุทธ์การขายที่ทำให้คุณต้องเสียเงินฟรี? ทุกครั้งที่ออกรถใหม่หรือซื้อรถมือสอง หลายคนมักถูกเสนอขายบริการพ่นกันสนิม พร้อมคำโฆษณาอย่าง “ปกป้องใต้ท้องรถ ป้องกันสนิมระยะยาว” แต่คำถามสำคัญคือ…พ่นกันสนิมจำเป็นจริงหรือไม่? หรือเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาด?

รถยนต์เกิดสนิมได้จริงหรือ?

คำตอบคือ “ใช่” สนิมเกิดจากการที่เหล็กสัมผัสกับน้ำและออกซิเจน โดยเฉพาะบริเวณใต้ท้องรถที่ต้องเผชิญกับน้ำ ฝุ่น โคลน และความชื้นตลอดเวลา หากดูแลไม่ดี อาจเกิดสนิมสะสมโดยไม่รู้ตัว

กลุ่มเสี่ยงคือรถที่

  • ใช้งานในพื้นที่ฝนตกชุกหรือน้ำท่วม
  • จอดกลางแจ้งเป็นประจำ
  • ขับลุยโคลนหรือพื้นที่เปียกชื้นบ่อย
  • อยู่ใกล้ทะเลที่มีไอเกลือในอากาศ

สำหรับรถในกลุ่มนี้ การพ่นกันสนิมอาจช่วยยืดอายุการใช้งานได้จริง

แล้วรถรุ่นใหม่ยังต้องพ่นอีกไหม?

ปัจจุบัน รถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นมีการพ่นเคลือบกันสนิมมาจากโรงงานอยู่แล้ว โดยใช้กระบวนการ Electro Deposition (EDP) ซึ่งช่วยป้องกันสนิมในระดับหนึ่ง แปลว่า หากคุณใช้งานรถในสภาพแวดล้อมทั่วไป ไม่ได้ลุยหนัก ไม่ได้จอดตากฝนหรือน้ำท่วมเป็นประจำ รถของคุณอาจไม่จำเป็นต้องพ่นกันสนิมเพิ่มเติมเลยก็ได้

การพ่นกันสนิมเพิ่มเติมเหมาะกับใคร?

บริการนี้จะเหมาะสมกับ

  • ผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่เสี่ยง เช่น ฝนตกชุก ใกล้ทะเล หรือมีโอกาสลุยน้ำบ่อย
  • รถมือสองที่ใต้ท้องเริ่มมีสนิมเล็กน้อย
  • คนที่ตั้งใจใช้รถยาวนาน 7-10 ปีขึ้นไป
  • รถที่ไม่มีแผ่นกันกระแทกหรือกันน้ำใต้ท้อง

หากคุณเข้าข่ายเหล่านี้ การพ่นกันสนิมอาจเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา

กลยุทธ์การขายที่ต้องระวัง

บางศูนย์บริการอาจเสนอพ่นกันสนิมในราคาหลักพันถึงหลักหมื่น และบางแห่งอาจรวมอยู่ในแพ็กเกจโปรโมชั่นโดยที่ลูกค้าไม่ทันรู้ตัว ซึ่งหากรถคุณไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมมาก การเสียเงินเพิ่มตรงนี้อาจไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร

ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า

  • รถคุณมีความเสี่ยงจริงหรือไม่
  • ศูนย์ที่ให้บริการใช้น้ำยามาตรฐานหรือเปล่า
  • มีการรับประกันผลงานหลังทำหรือไม่

สรุป การพ่นกันสนิมไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับรถทุกคัน มันเป็นบริการเสริมที่เหมาะกับการใช้งานบางรูปแบบ และบางพื้นที่เท่านั้น ก่อนจ่ายเงินกับบริการนี้ อย่าลืมถามตัวเองว่า  “รถของเรามีความเสี่ยงมากพอหรือไม่?”  เพราะถ้ารถของคุณไม่จำเป็นต้องพ่น การเสียเงินก็อาจเป็นแค่ค่าใช้จ่ายที่ไม่คุ้มค่าในระยะยาว