ตอกย้ำให้ชัดขึ้น Nissan Z Proto (400Z) พร้อมราคาและเวลาวางจำหน่าย
Nissan Z Proto (400Z) ถือว่าเป็นรถที่ทิ้งระยะห่างของรุ่นก่อนเป็นระยะเวลาที่มากพอสมควร ซึ่งก่อนหน้ามีข้อถกเถียงกันว่า จะใช้ชื่อ 400Z หรือไม่ แต่แล้วสุดท้ายก็ได้ความชัดเจนแล้วว่าจะใช้เป็น Z Proto ซึ่งหมายถึง “ต้นแบบ” แต่เชื่อว่าสุดท้ายก็ยังคงเรียกติดปากว่า 400Z อยู่ดี
เส้นสายของการออกแบบและรายละเอียดต่างๆยังคงความคลาสสิกเหมือนกับรุ่นแรกๆ คาดว่ามาคราวนี้ใช้ V6 เทอร์โบชาร์จคู่ เครื่องยนต์เดียวกันกับ Infinity 370Z ตรงนี้ชัดเจนแน่นอนตามที่เคยรายงานไว้ และมีพละกำลังคาดว่าจะสูงถึง 400 แรงม้า (298 กิโลวัตต์) เลยทีเดียว
เรียกว่ากลับมาคราวนี้สามารถเทียบเคียงพละกำลังไม่เพียงแค่ 332 แรงม้า (248 กิโลวัตต์) เหมือนเครื่องยนต์ที่ใช้ใน 370Z แต่มาครั้งนี้หลายค่ายก็หวั่นๆเหมือนกัน เพราะสามารถเทียบได้กับ TOYOTA Supra ที่ให้พละกำลัง 382 แรงม้า (285 กิโลวัตต์) และยังเรียกว่าสูงกว่า Ford Mustang และ Chaverolet Camaro SS ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
V6 เทอร์โบคู่ใหม่ของ Z Proto จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดขับเคลื่อนลงที่ล้อหลังและในส่วนเกียร์อัตโนมัติกำลังอยู่ในขึ้นพัฒนาต้องติดตามกันต่อนะครับ
ตัวถังภายนอกออกแบบให้มีเส้นสายของความสปอร์มผสมผสานความคลาสสิกด้วยลายเส้นเรโทรแบบยุกต์เก่าผสมผสานเทคโนโลยียุกต์ใหม่ได้ลงตัว และยังคงเส้นความเป็นหน้ายาวหลังคาเตี้ยเหมือนกับรุ่น 240Z ใช้ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว และท่อคู่
มิติตัวถัง ขนาด Nissan Z Proto นั้นใหญ่กว่า 370Z ปัจจุบันเล็กน้อยโดยเฉพาะความยาว Z ใหม่มีความยาว 172.5 นิ้วกว้าง 72.8 นิ้วและสูง 51.6 นิ้ว แต่ในขณะที่ 370Z นั้นมีความยาวเพียง 167.5 นิ้วกว้าง 72.6 นิ้วและสูง 51.8 นิ้ว ซึ่งก็ยังต่างกันเล็กๆน้อยๆ
ภายในไม่ได้ย้อนยุกต์เหมือนกับภายนอกแต่มีการวางรูปแบบที่ดูแล้วสะอาดตา และมาพร้อมกัยหน้าจอที่เป็นหัวใจหลักของห้องโดยสาร แต่ที่โดดเด่นสุดจะเป็นพวงมาลัยแบบสามด้านทรงสปอร์ทที่มองผ่านๆจะนึกถึง BMW M Sport ทันที แต่มีโลโก Z บ่งบอกถึงสายเลือกได้อย่างชัดเจน
เทคโนโลยีที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัย คือแผงหน้าปัดแบบ Digital ขนาด 12.3 นิ้ว ไม่ใช่เข็มอานาล๊อคแบบเดิมๆเรียกว่าคราวนี้ Nissan จะไม่ปล่อยให้แบรนด์อื่นแซงหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีอีกต่อไปแล้ว
ในส่วนของราคาและการวางจำหน่าย Nissan Z Proto คาดว่าจะถูกวางในตลาดช่วงปี 2022 และคาดว่าจะมีราคาวางจำหน่ายทเริ่มต้นที่ 40,000 ดอลล่า หรือราวๆ (1,280,000 บาท) เรียกว่าตัดราคาของคู่แข่งแบบหน้าตาเฉยเลยทีเดียว
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม: