สาระน่ารู้ » ต่อใบขับขี่ออนไลน์ เตรียมใช้จริง! ไม่ต้องทดสอบร่างกาย หากเข้าเกณฑ์

ต่อใบขับขี่ออนไลน์ เตรียมใช้จริง! ไม่ต้องทดสอบร่างกาย หากเข้าเกณฑ์

25 เมษายน 2025
9   0

ครม. เคาะร่างกฎกระทรวงใหม่! ต่อใบขับขี่รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ เตรียมยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เตรียมพร้อมสู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ

แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถต่อใบขับขี่ทางออนไลน์ได้ แต่ล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้ไฟเขียวร่างกฎกระทรวงที่มุ่งพัฒนาไปสู่การให้บริการแบบดิจิทัล ลดภาระของประชาชนที่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานขนส่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนต่ออายุใบขับขี่

ปัจจุบัน การต่อใบขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ยังคงต้องดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่ง โดยมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่าย แต่เมื่อกฎกระทรวงฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะเปลี่ยนแปลงวิธีการต่ออายุใบขับขี่ไปอย่างมาก

ประเด็นหลักของร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้มี  3 ข้อสำคัญ

  1. ยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
    สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ หากอยู่ในช่วงอายุและมีสภาพร่างกายเป็นไปตามเกณฑ์ที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกจะประกาศไว้ (ยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด)
  2. ยังคงต้องทดสอบสมรรถภาพในบางกรณี
    หากไม่เข้าเกณฑ์ตามที่กำหนด เช่น อายุเกิน หรือมีเงื่อนไขเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย ผู้ยื่นขอต่อใบขับขี่จะต้องเข้ารับการทดสอบปฏิกิริยาและสายตา รวมถึงผ่านการอบรมตามที่กำหนด
  3. เริ่มบังคับใช้ภายใน 90 วัน
    หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำรายละเอียดและเงื่อนไข

ในระหว่างนี้ ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ ยังคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนปกติไปก่อน จนกว่าประกาศฉบับใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย

การอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์

สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่หรือใบขับขี่หมดอายุ สามารถเข้ารับการอบรมผ่านระบบออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ dlt-elearning.com ยกเว้นกรณีเปลี่ยนจากใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี เป็น 5 ปี (กรณีใบขับขี่ไม่หมดอายุเกิน 1 ปี จะไม่ต้องอบรม)

ประเภทใบขับขี่ที่สามารถอบรมออนไลน์ได้

  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล, รถยนต์, รถสามล้อ
  • รถขนส่งทุกชนิด (ประเภท 1-4)
  • รถสาธารณะทั้งประเภทจักรยานยนต์, รถยนต์สามล้อ, รถยนต์ทั่วไป
  • ใบขับขี่ที่ขาดต่อเกิน 1 ปี หรือสิ้นอายุเกิน 3 ปีในบางกรณี

ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ dlt-elearning.com และลงทะเบียนผู้ใช้งาน
  2. เลือกหลักสูตรอบรม ตามประเภทใบขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ:
  3. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล  (1 ชม.)
  4. รถยนต์/รถสามล้อส่วนบุคคล  (1 ชม.)
  5. กรณีขาดต่อเกิน 1 ปี  (2 ชม.)
  6. รถขนส่ง/ใบขับขี่ชนิดที่ 1-4  (2 ชม.)
  7. รถสาธารณะ (3 ชม.)
  8. ทำแบบสอบถามก่อนอบรม
  9. ชมวิดีโอบรรยายให้ครบตามเวลา
  10. ทำแบบทดสอบหลังจบการอบรม
  11. บันทึกหน้าจอผลการอบรม  เพื่อใช้เป็นหลักฐานแนบตอนดำเนินการต่อใบขับขี่

สรุป ระบบต่อใบขับขี่ออนไลน์ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที หากกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ตามกำหนด ประชาชนจะสามารถเข้าถึงบริการที่สะดวกขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของการเป็นรัฐบาลดิจิทัล (e-Government) ได้อย่างแท้จริง