เคลือบแก้ว/เคลือบสีป้องกันน้ำช่วงสงกรานต์ ได้ผลไหม? มาดูกันให้ชัด!
สงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสนุกและเปียกสุด ๆ เพราะนอกจากอากาศจะร้อนจนแทบละลายแล้ว ยังมีการสาดน้ำที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้ไปแล้ว หลายคนสนุกกับการเล่นน้ำ แต่สำหรับคนรักรถนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่น่าหนักใจ เพราะน้ำสกปรก ฝุ่นละออง และแสงแดดแรง ๆ ต่างก็เป็นศัตรูตัวร้ายของผิวรถ! คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “เคลือบแก้ว หรือ เคลือบสีรถ ช่วยป้องกันรถจากความเสียหายช่วงสงกรานต์ได้จริงไหม?” ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เคลือบแก้ว / เคลือบสี คืออะไร? ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจคร่าว ๆ กันก่อนว่า “เคลือบแก้ว” และ “เคลือบสี” ต่างกันอย่างไร
- เคลือบแก้ว (Glass Coating) คือ การเคลือบผิวรถด้วยสารซิลิกา (SiO₂) หรือโพลิเมอร์แบบพิเศษ ที่จะสร้างชั้นฟิล์มแข็งใสบนผิวรถ ช่วยปกป้องสีรถจากรังสียูวี คราบน้ำ ฝุ่น ยางมะตอย รวมถึงรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ได้ดี มีความเงางามสูง ดูคล้ายกระจก (จึงเรียกว่าเคลือบแก้ว
- เคลือบสี (Wax/Sealant Coating) คือ การเคลือบด้วยแว็กซ์หรือซีลแลนต์ที่เป็นสารเคลือบแบบชั่วคราว ช่วยให้สีรถเงาและเรียบลื่นขึ้น ป้องกันฝุ่นละอองหรือน้ำเกาะผิวรถได้ในระยะเวลาหนึ่ง โดยความทนทานอาจอยู่ได้ตั้งแต่ไม่กี่วันถึงไม่กี่เดือน ขึ้นอยู่กับประเภท
เคลือบแก้วหรือเคลือบสี ป้องกันน้ำช่วงสงกรานต์ได้แค่ไหน?
- ป้องกันคราบน้ำฝังแน่น
การเล่นน้ำสงกรานต์มักมาพร้อมกับน้ำสกปรกหรือมีแป้งผสม ซึ่งเมื่อแห้งจะทิ้งคราบบนผิวรถ หากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นคราบฝังแน่นหรือคราบน้ำกรด เคลือบแก้วสามารถช่วยลดการเกาะตัวของคราบน้ำได้ดีมาก เพราะมีคุณสมบัติ “Hydrophobic” (ไม่ชอบน้ำ) น้ำจะกลิ้งออกจากผิวได้ง่าย ทำให้ล้างรถง่ายขึ้น ไม่ฝังแน่น ส่วน เคลือบสี ก็ช่วยได้เช่นกัน แต่อาจต้องเคลือบบ่อยกว่า
- ป้องกันรอยขีดข่วนเล็ก ๆ จากการเช็ดรถ
หลังเปียกน้ำ หลายคนมักใช้ผ้าเช็ดทันที ถ้าผ้ามีฝุ่นหรือทรายปนอยู่ ก็อาจเกิดรอยขนแมวได้ เคลือบแก้วสามารถช่วยลดการเกิดรอยขนแมวได้ ในระดับหนึ่ง เพราะชั้นเคลือบแข็งกว่าผิวสีรถจริง ในขณะที่ เคลือบสีทั่วไป อาจช่วยได้น้อยกว่า เพราะเป็นชั้นบาง ๆ และอ่อนกว่า
- ป้องกันความร้อนและรังสียูวี
แดดสงกรานต์ร้อนแรงไม่แพ้ฤดูร้อนอื่น ๆ การจอดรถกลางแจ้งอาจทำให้สีรถซีดหรือด่างได้ในระยะยาว การเคลือบแก้วมีคุณสมบัติสะท้อนรังสียูวีได้ดี ช่วยยืดอายุสีรถ เคลือบสีธรรมดาก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ประสิทธิภาพอาจไม่ยาวนาน
แล้วควรเคลือบตอนไหน?
- ถ้าคุณต้องขับรถบ่อยในช่วงสงกรานต์ หรือจอดรถกลางแจ้ง แนะนำให้เคลือบล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้ชั้นเคลือบเซ็ตตัวเต็มที่
- หากมีงบจำกัด เลือกเคลือบสีแบบฟิล์มแว็กซ์ก่อนสงกรานต์ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
- และที่สำคัญ หลังสงกรานต์ ควรล้างรถทันที อย่าปล่อยให้คราบน้ำหรือแป้งแห้งติดแน่น
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
รายการ | เคลือบแก้ว | เคลือบสี |
ความทนทาน | 6 เดือน – 5 ปี (แล้วแต่เกรด) | 1 สัปดาห์ – 3 เดือน |
ราคาประมาณ | เริ่มต้น 5,000 – 30,000+ บาท | เริ่มต้น 300 – 2,000 บาท |
ความเงางาม | สูง คมชัด | กลาง – สูง |
การดูแลหลังเคลือบ | หลีกเลี่ยงล้างน้ำยาแรงใน 1 สัปดาห์แรก | เคลือบบ่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ |
สรุป เคลือบแก้ว / เคลือบสี ป้องกันน้ำช่วงสงกรานต์ได้จริงไหม?
ได้ผลแน่นอน! แต่ขึ้นอยู่กับประเภทของการเคลือบและการดูแลหลังจากนั้น หากคุณต้องการการปกป้องขั้นสุด เคลือบแก้วคือทางเลือกที่เหมาะสมในระยะยาว แต่ถ้าอยากแค่ให้รถสวยเงาและล้างง่ายในช่วงสงกรานต์ เคลือบสีก็เพียงพอแล้ว
ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน อย่าลืมล้างรถทันทีหลังสงกรานต์ เพื่อป้องกันคราบฝังแน่นและยืดอายุผิวสีรถของคุณให้นานที่สุดนะคะ