สาระน่ารู้ » เช็คระยะการใช้งานของอุปกรณ์ภายในรถ แต่ละอุปกรณ์เสื่อมในระยะใดบ้าง

เช็คระยะการใช้งานของอุปกรณ์ภายในรถ แต่ละอุปกรณ์เสื่อมในระยะใดบ้าง

5 กันยายน 2023
334   0

ระยะ ของการใช้งานรถยนต์นั้นเป็นสิ่งสำคัญจะต้องหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำเพราะแต่ละระยะจะบ่งบอกถึงความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆภายในรถยนต์ ซึ่งแต่ละระยะก็จะมีอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพแตกต่างตามที่สเป็คโรงงานกำหนดไว้ มาดูกันว่าแต่ละละระยะจะมีอุปกรณ์อะไรที่เสื่อมสภาพไปบ้างครับ

  1. น้ำมันเครื่องและใส้กรองน้ำมันเครื่อง เป็นสิ่งที่ต้องควรเปลี่ยนถ่ายอย่างเคร่งครัด เพราะน้ำมันเครื่องเป็นของเหลวที่สำคัญในการลดความสึกหรอของเครื่องยนต์ โดยมาตรฐานของน้ำมันเครื่องก็จะระบุไว้ตามสเป็คของข้างขวดหรือแกลอนอยู่แล้ว โดยจำแนกตามเกรดแต่ละเกรดของน้ำมันเครื่องดังนี้
  • น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา (Synthetic) ถือว่าเป็นน้ำมันเครื่องที่มีอายุการใช้งานสั้นที่สุด และมีราคาที่ถูกที่สุดโดยผลิตมาจากน้ำมันที่เหลือมาจากการกลั่น โดยสามารถใช้ได้ประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร
  • น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องที่ผสมระหว่างน้ำมันสังเคราะห์แท้ กับน้ำมันเครื่องธรรมดา สามารถใช้ได้ประมาณ 5,000-10,000 กิโลเมตร ราคาจะอยู่ในระดับปานกลาง และไม่แพงมากเกินไป
  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่่องที่มีอายุการใช้งานมากที่สุด สามารถใช้งานได้สูงที่สุด 15,000-20,000 กิโลเมตร เลยทีเดียว โดยผลิตมาจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์มากจากน้ำมันปิโตเลียม ถือว่าเป็นเกรดน้ำมันเครื่องที่พิเศษและดีที่สุด

2. ยางรถยนต์ และศูนย์ล้อ จะต้องเช็คทุก 6 เดือน หรือทุกระยะ 50,000 กิโลเมตร

3. ระบบจานเบรกและผ้าเบรกหลัง จะต้องเช็คทุก 6 เดือน พร้อมตรวจการรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันเบรก หรือทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร

4.ระบบคลัช จะต้องตรวจเช็คในระยะ 6 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร

5.ผ้าเบรก สิ่งที่ควรตรวจเช็คหลังจากใช้งานไปในระยะ 50,000 – 70,000 กิโลเมตร ก็คือเสียงของผ้าเบรกเพราะความเสื่อมสภาพ จะต้องคอยตรวจอาการสิ่งผิดปกติตตามอาการและคุณภาพการใช้งานต่างๆ หรือสังเกตจากเสียงแปลกปลอมต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะใช้งาน ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีอายุการใช้งานแตกต่างกัน

6. ระบบช่วงล่าง ควรอุดจารบีในระยะ 6 เดือนหรือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร

7.โช๊คอัพ หน้า-หลัง จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 12 เดือน หรือราวๆ 10,000 กิโลเมตร

8. น้ำมันเกียร์แบบธรรมดาและเกียร์ออโต้ จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือนหรือทุก 20,000 กิโลเมตร

9. ระบบช่วงล่างปีกนก คันชักส่งลูกมาก ยางกันฝุ่น จะต้องตรวจเช็คในระยะ 12 เดือน หรือทุกๆ 20,000 กิโลเมตร

10. น้ำมันเบรค จะต้องตรวจเช็คหรือเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือนหรือทุกๆ 40,000 กิโลเมตร

11. น้ำมันคลัช จะต้องตรวจเช็คเหรือเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือน 40,000 กิโลเมตร

12. น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ จะต้องตรวจเช็คหรือเปลี่ยนในระยะ หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร

13. น้ำยาหล่อเย็น จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือนหรือราวๆ 40,000 กิโลเมตร

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่คนใช้รถจะต้องหมั่นตรวจ เพื่อยืออายุการใช้งานของรถยนต์ และ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน หากคุณบกพร่องในเรื่องของการดูแล อาจจะทำให้ระบบอื่นๆ ภายในรถเกิดความเสียหายตามมาซึ่งเป็นต้นเหตุของค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเดิม
14. กรองแอร์เป็นอีก1อุปกรณ์ภายในรถที่ดักจับฝุ่นละอองก่อนที่จะทำการเป่าออกมาให้เรารับอากาศหายใจเข้าไป จะต้องเช็กทุก 6,000 กิโลเมตร

15. สายพานไทม์มิ่ง จะต้องทำการเปลี่ยนทุกๆ 95,000 – 160,000 กิโลเมตรเพื่อลดโอกาสที่ห้องเครื่องยนต์จะเสียหายจากการฟาดเมื่อสายพานขาดขำรุด

16. หัวเทียน และคอล์ยจุดระเบิดหัวเทียนเป็นอีก 1 อุปกรณ์ภายในรถที่จำเป็นมากๆ เพราะถ้าเครื่องยนต์เกิดการกระตุกหรือทำงานไม่เต็มระบบ อุปกรณ์ชุดนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มักจะเสียหายหรือชำรุดบ่อยๆ ควรเช็คทุกระยะ 40,000 กิโลเมตร

17. หัวฉีด

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม