สาระน่ารู้ » 5.สัญลักษณ์อันตรายบนหน้าปัดรถยนต์ มีความหมาย รู้ไว้ก่อนเดินทางไกล

5.สัญลักษณ์อันตรายบนหน้าปัดรถยนต์ มีความหมาย รู้ไว้ก่อนเดินทางไกล

28 กรกฎาคม 2020
3292   0

5.สัญลักษณ์อันตรายบนหน้าปัดรถยนต์ มีความหมาย รู้ไว้ก่อนเดินทางไกล
รู้หรือไม่ว่า หัวใจหลักของการทำงานของรถยนต์นั้นคือ ECU ซึ่งเป็นสมองกล ที่จะควบคุมการทำงานผ่านเซนเซอร์ของระบบต่างๆมากมายภายในรถยนต์เมื่อเกิดการทำงานผิดพลาด เจ้าเซนเซอร์นี่แหละจะเป็นตัวทำหน้าที่สั่งการให้ระบบต่างๆ ทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบกพร่องน้อยที่สุด แต่ถ้าการทำงานเกิดการผิดพลาดเจ้าตัวเซนเซอร์นี่แหละจะทำหน้าที่สั่งงานไปยังหน้าปัดรถยนต์เพื่อส่งไฟสัญลักษณ์ ให้เราทราบว่า เครื่องยนต์ หรือระบบการทำงานอะไรที่กำลังมีปัญหา ฉะนั้นสิ่งที่คนใช้รถควรรู้ก็คือ สัญลักษณ์ต่างๆที่แสดงว่าแต่ละแบบบ่งบอกถึงอะไรบ้างก่อนที่เครื่องยนต์ของคุณจะแน่นิ่งจนต้องกินข้าวลิงข้างทาง

1.ไฟเตือนเครื่องยนต์
ไฟเครื่องยนต์นั้นเกิดจากทำงานผิดพลาดหลายๆสาเหตุ เช่นการทำงานของหัวเทียนผิดพลาด การทำงานของหัวฉีด อัตราส่วนผสมของน้ำมัน รวมไปถึงการทำงานของระบบดักไอเสีย (แคทาไลติคคอนเวอร์เตอร์) ผิดพลาด หรือเซนเซอร์ต่างๆตรวจจับถึงความผิดพลาดในบางจุด ก็สามารถทำให้ไฟรูปเครื่องโชว์ได้ เช่นกัน

2.ไฟน้ำมันเครื่องโชว์
เรียกว่าเป็นสัญญานอันตรายของของเครื่องยนต์เกี่ยวกับเรื่องน้ำมันเครื่องที่หายไป สำหรับสัญลักษณ์นี้เนื่องเป็นปัญหาของน้ำมันเครื่องที่ไม่สามารถหมุนเวียนได้ในระบบ หรืออาจจะมีการรั่วซึมของอ่างน้ำมันเครื่อง หรือ ซึนต่างๆของเครื่องยนต์มีการไหลซึม
ฉะนั้นเมื่อไฟน้ำมันเครื่องโชว์ขึ้นมา แนะนำให้พยายามหาที่จอดควบคู่ไปกับการดูมาตรวัดความร้อนของเครื่องยนต์ เมื่อได้ที่จอดแล้วควรดับเครื่องทันที เพื่อยังคงสภาพชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ให้สึกหรอน้อยที่สุด ขันตอนต่อไปคือการรอ 5-10 นาทีเพื่อ ให้น้ำมันเครื่องไหลลงอ่างก่อนแล้วจึงตรวจเช็คระดับน้ำมันผ่านสายวัดน้ำมันเครื่องว่ายังหลงเหลือน้ำมันอยู่ระดับไหน กรณีที่ไม่มีน้ำมันเหลืออยู่หรืออยู่ในระดับต่ำ แนะนำให้ใช้ลากไปอู่ หรือศูนย์บริการ จะดีกว่า

3.สัญลักษณ์แบตเตอรี่อ่อน
กระแสไฟในแบตเตอร์รี่อ่อน ในส่วนนี้อาจจะเกิดจากอายุการใช้งานของแบ๊ตเตอรี่รถยนต์ หรือการลืมปิดไฟ หรือ จอดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆโดยไม่มีการสตาร์ทเพื่อปั่นกระแสไฟกลับก็จะทำให้กระแสไฟหมดจนรูปไฟแบ๊ตเตอรี่โชว์ก็เป็นได้
ในส่วนของไดรชาร์ตเสื่อม หรือสาพานไดรชาร์ตหย่อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กระแสไฟฟ้าชาร์ตไม่เข้าได้เหมือนกัน ฉะนั้นก่อนที่จะเดินทางทุกครั้งควรหมั่นคอยสอดส่องตรวจดูว่าไฟเต็มหรือไม่

ตาแมวแบตเตอร์รี่รถยนต์ บอกสถานะด้วยสี

4.ไฟมาตรวัดความร้อน อุณหภูมิเครื่องยนต์
เป็นสัญลักษณ์สุดอันตรายที่ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด มันคือเครื่องหมายบางบอกว่า เครื่องยนต์มีการทำงานบกพร่อง สึกหรอ จึงเครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินกำหนดอาจจะทำให้ภายในเครื่องยนต์ของคุณพังเสียหายยับเยินทั้งฝาสูบโก่ง แหวนสูบฉีกรวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆภายในก็เสียหายไปด้วย ด้วยอุณหภูมิที่สูงมากๆ อาจจะทำให้อุปกรณ์อื่นๆละเสียหายไปด้วย ฉะนั้นเมื่อเกิดสัญลักษณ์นี้ขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำควรหาที่จอดอย่างปลอดภัยและดับเครื่อง เพื่อที่จะให้เครื่องยนต์ เย็นลง เพื่อที่จะตรวจเล็ตหม้อน้ำ (ห้ามเติมน้ำเย็นในขณะที่เครื่องกำลังมีความร้อนสูง ควรพักให้เครื่องเย็นลงก่อน) แล้วจึงค่อยๆขับไปตรวจเช็คที่อู่หรือศูนย์บริการ

5.ไฟเบรคมือ และ ABS
ไฟเตือนสัญลักษณ์ ระบบเบรค ABS ไฟสัญลักษณ์นี้จะสว่างขึ้นเมื่อ เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และเมื่อคุณเบรคกระทันหันไฟ ABS จะกระพริบหรือสว่างขึ้นเป็นจังหวะนั่นคือการทำงานปกติของระบบ ABS มีการทำงาน และอาจจะเรียกว่าพบได้บ่อยๆ หลังจากที่มีการล้างห้องเครื่องยนต์ ในส่วนนี้อาจจะเกิดจากความชื้นของเซนเซอร์ ABS สามารถแก้ไขเบื้อต้นโดยใช้ไดร์เป่าผมเป่าที่เซนเซอร์ให้แห้ง หากทำแล้วไฟยังไม่ดับก็เป็นที่เซนเซอร์ ABS ตำแหน่งของล้อรถ ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องปรึกษาช่างผู้ชำนาญแล้วหละครับ

อันที่จริงแล้ว ไฟสัญญาน หน้าปัดรถยนต์อื่นๆก็มีความหมายแตกต่างกันออกไปเพื่อเตือนให้ผู้ใช้ได้รับทราบถึงปัญหารถของคุณที่กำลังจะเกิดขึ้น ฉะนั้นควรสังเหตุอยู่เป็นประจำ ศึกษาและไม่ควรมองข้าม เพื่อรถยนต์ของคุณจะได้อยู่คู่กายไปนานๆนะนะครับ ด้วยความหวังดีจากทีมงาน Kitsadagoodcar นะครับ

ข่าวสารสาระน่ารู้เพิ่มเติม : ใบขับขี่หาย หรือชำรุด ต้องทำยังไง? ไม่จำเป็นต้องแจ้งความ