ในวงการยานยนต์ตอนนี้ต้องยอมรับในเรื่องของกระแสรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เข้ามาตีตลาดรถยนต์ได้เฉียบขาดสุดๆ ด้วยยอดจองที่ถล่มทลาย จนประชาชนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถซักคัน ก็เซเข้าไปจองไปจัดได้อย่างไม่ลังเล เพราะด้วยปัจจัยในหลายๆส่วนของตลาดรถยนต์ ที่มีในเรื่องของกลุ่มราคา กลุ่มความหรูหรา Luxury และรวมไปถึงกลุ่มที่ชื่นชอบในความแรง อีกทั้งยังมีความประหยัดในเรื่องของเม็ดเงินเพราะค่าพลังงานนั้นย่อมถูกกว่าเชื้อเพลิงอย่างแน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือ ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังยอดจองคือการผ่อน และค่าส่วนต่างที่ทำให้หลายคนลืมคิดจนแบกรับภาระไม่ไหวจึงอาจจะต้องส่งต่อกลายมาเป็นรถมือสอง วันนี้เราจะมาดู อันดับรถยนต์ไฟฟ้า EV คาดว่าจะเข้ามาเป็นรถยนต์มือสอง ในปี 2024 กันครับว่ามีรุ่นไหนบ้าง
ORA Good CAT
ORA Good CAT เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นบุกเบิกรุ่นแรกๆที่เปิดตัวออกมาแล้วได้รับเสียงฮือฮาจากประชาชนเป็นอย่างมากเพราะด้วยความแปลกใหม่ของวงการรถยนต์ที่ริเริ่มทำตลาด EV อย่างจริงจัง จึงทำให้ได้รับความนิยม ถึงหลายๆคนจะทราบว่า เมื่อเทียบกับตัวต่างประเทศจะถูกตัดอ๊อพชั่นหลายๆจุดออกไปและขายในราคาปกติ แต่ก็ถือว่ายังรับได้
เหตุผลว่าทำไม ถึงคาดว่าเข้ามาเป็นตลาดรถมือสอง
ราคาเปิดตัวที่ 989,000 – 1,199,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปในอดีต ซึ่งขนาดและอ๊อพชั่นของรถก็ทำเอาหลายๆคนอดใจไม่ไหว เพราะด้วยหน้าตาที่น่ารักแปลกตา ทำให้สาวๆนั้นรีบต่อแถวซื้อใบจองกันเป็นแถวๆ และกลุ่มตลาดรถมือสองเตรียมรองรับกับสถานการณ์รถไฟฟ้ามือสองก็อาจจะเริ่มมีเพิ่มเข้ามามากขึ้น
BYD ATTO 3
เป็นรุ่นที่เปิดตลาด Compact SUV ได้อย่างน่าสนใจ และสามารถเรียกกระแสการใช้รถไฟฟ้า ขนาดเล็กด้วยราคาเปิดตัวเริ่มต้นเพียงแค่ 1.09 ล้านบาท ทำให้คนไทยเริ่มไปตั้งตารอแห่จองคิวกันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น โดยในล๊อตแรก กวาดยอดจองสูงถึง 2,507 ตั้งแต่วันแรกที่เปิดประตู เพราะด้วยชื่อเสียงอันทรงพลังของ BYD ที่ทำตลาดรถไฟฟ้า EV มาแล้วหลายพื้นที่ ทำให้ทั้งคนเอเชียและยุโรปต่างไว้ใจ และมั่นใจในเรื่องคุณภาพ โดยจุดเด่นคือ Blade Battery LFP ที่มั่นใจในเรื่องของคุณภาพเหนือกว่าแบตเตอรี่ของแบรนด์อื่นๆ
เหตุผลว่าทำไม ถึงคาดว่าเข้ามาเป็นตลาดรถมือสอง
เนื่องด้วยความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของระบบเก็บพลังงานที่ก้าวกระโดดจึงทำให้คนเริ่มหันไปสนใจในเรื่องของศักยภาพของความจุแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น BYD ATTO3 สามารถทำระยะทางได้เพียงแค่ 345 กิโลเมตรเท่านั้น โดยตอนวางขายนั้นเคลมว่าสามารถทำได้สูงสุด 410 กิโลเมตรเลยทีเดียว และในรุ่นตัว Extended Range วิ่งได้จริงที่ 420 กิโลเมตร โดยเคลมไว้ที่ 480 กิโลเมตร และสำหรับคนที่เคยลองขับแล้ว จะรู้สึกถึงความไม่สบายในสรีระของบางคน เพราะพวงมาลัยนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเบาะ ทำให้ปวดหลัง ปวดคอเวลาเดินทางไกล
BYD Dolphin
เป็นรถไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่มียอดจองถล่มทลาย เพราะของแถมที่ติดมากับรุ่นนี้ เรียกว่ามหาศาลเลยทีเดียว ทั้งประกันภัยที่แถมให้ในปีแรก ประกันตัวรถให้ถึง 8 ปี และยังมีอุปกรณ์ต่อพ่วงไฟฟ้า รวมไปถึง สายชาร์จ AC Portable Charger
เหตุผลว่าทำไม ถึงคาดว่าเข้ามาเป็นตลาดรถมือสอง
รถที่มีขนาดเล็ก แบบนี้กับราคาที่จับต้องได้ง่าย ก็อาจจะทำให้ลูกค้าหลายๆคนแห่ไปซื้อใช้แบบยังไม่ได้ไตร่ตรองเท่าที่ควรก็รีบเป็นเจ้าของกันแล้ว และเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะพอใจในรถที่มีห้องโดยสารเล็กๆ แบบนี้ จึงทำให้คาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีรถอีกหลายๆแบรนด์เข้ามาชนตลาดและมีรถที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคกลุ่มเหล่านั้นมากกว่า จึงทำให้กลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้บริโภคหลายๆคนอาจจะมีความคิดที่จะเปลี่ยนรถนั่นเอง
Wuling Air EV
เจ้าจิ๋วขนาดเล็กที่ เป็นรถที่มำกำลังเพียงแค่ 41 แรงม้า 110 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ ขนาด 17.3 kWh สามารถวิ่งได้เพียงแค่ 200 km. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จ ต่อครั้ง 8.5 ชั่วโมง Top Speed ความเร็วสูงสุดที่ 106 และราคาในช่วงมือหนึ่งนั้นอยู่ราวๆ 395,000 จนไปถึง 465,000 บาทครับ
เหตุผลว่าทำไม ถึงคาดว่าเข้ามาเป็นตลาดรถมือสอง
แต่สิ่งที่สำคัญคือรถรุ่นนี้เป็นรถที่โครงการหมู่บ้านหลายๆที่ ได้นำไปเป็นสิ่งจูงใจเพื่อกระตุ้นยอดขายเพื่อให้คนที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้าน และเดินทางไม่สะดวกได้มีรถยนต์ขนาดเล็กเพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ปัญหา และแน่นอนว่าเมื่อเป็นรถที่ลูกค้าได้เป็นของแถม ก็ต้องมีปัญหาตามมาเช่นสเปคของรถก็ไม่ตรงตามความต้องการเท่าไหร่นักจึงทำให้ในปีหน้าลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มทยอยปล่อยออกสู่ตลาดรถมือสองนั่นเอง สำหรับใครที่สนใจจะซื้อรุ่นนี้ ปีหน้ารับรองว่าได้เป็นเจ้าของกันอย่างแน่นอน
Neta V
เป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็กอีกรุ่นที่ ได้รับการตอบรับมาเป็นอย่างดี เพราะด้วยเรื่องของความคุ้มค่า ราคาในช่วงการเปิดตัวและ อุปกรณ์สุดแสนจะจำเป็น ที่แถมมาให้ในกล่อง พร้อมติดตั้งทำให้หลายๆคนนั้นก็ตัดสินใจเดินเข้าศูนย์ได้ไม่ยาก
เหตุผลว่าทำไม ถึงคาดว่าเข้ามาเป็นตลาดรถมือสอง
สำหรับคนที่ได้ลองขับพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าไม่เหมาะกับการเดินทางไกลเอาซะเลยเพราะเสียเวลาในการชาร์ตเป็นอย่างมาก เมื่อต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพราะเมื่อเดินทางจริง สามารถทำระยะไกลได้ไม่ถึง 300 กิโลเมตร รวมแวะจุดพักแล้วก็อาจจะไม่ถึง 280 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เพราะด้วยปัจจัยการอื่นๆของการเดินทาง ก็ทำให้ระยะที่ทำได้นั้นสั้นลง เพราะถ้าหากบางคนที่ต้องการเดินหน้ารถไฟฟ้าต่อ ก็คงจะไปดูรุ่นที่สามารถเดินทางได้ไกลกว่านี้ จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่หลายๆคนเริ่มแห่ทยอยขายในอนาคตนั่นเอง
อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม