สาระน่ารู้ » 7 ข้อที่ต้องรู้ก่อนขึ้นกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน!

7 ข้อที่ต้องรู้ก่อนขึ้นกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน!

10 เมษายน 2025
63   0

7 ข้อนั่งรถกระบะเล่นสงกรานต์ให้ถูกกฎหมาย

เล่นให้มันส์ แต่ต้องไม่ลืม “ความปลอดภัย” และ “กฎหมาย”

เทศกาลสงกรานต์ในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย เพราะเป็นทั้งวันหยุดยาวและเทศกาลแห่งความสนุกสนานที่มาพร้อมกับอากาศร้อน ๆ ใครหลายคนเลือกที่จะออกไปเล่นน้ำกับเพื่อนหรือครอบครัว และหนึ่งในกิจกรรมสุดฮิตก็คือ “นั่งท้ายรถกระบะเล่นน้ำ” เพราะทั้งสะดวก ประหยัด และได้อารมณ์แบบไทย ๆ

แต่การขึ้นกระบะเล่นน้ำไม่ได้แปลว่าจะทำยังไงก็ได้! เพราะมีข้อกฎหมายและกฎจราจรที่เราต้องรู้ เพื่อให้เล่นได้อย่างสนุกและปลอดภัย ไม่เสี่ยงโดนจับหรือเกิดอุบัติเหตุ

มาดูกันว่า 7 ข้อควรรู้ก่อนขึ้นรถกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ มีอะไรบ้าง

 1. ห้ามนั่งบนขอบกระบะหรือหลังคารถ

หลายคนอาจเคยเห็นภาพการนั่งบนขอบกระบะ โหนหลังคา หรือยืนในรถขณะเล่นน้ำ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อันตรายมาก ไม่ว่าจะเป็นถนนเรียบหรือขรุขระ โอกาสที่คนจะเสียหลักล้ม หรือหลุดจากรถมีสูงมาก

ตามกฎหมายจราจรไทย ระบุว่า การนั่งบนขอบรถ บนหลังคา หรือยืนท้ายรถในขณะรถเคลื่อนที่ ถือเป็นการกระทำที่ผิด เพราะเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต หากเจ้าหน้าที่พบเห็น อาจถูกปรับหรือเรียกเตือนทันที

ทางที่ดี : ควรนั่งอยู่ในตัวกระบะหลัง โดยนั่งชิดพื้นรถให้มากที่สุด และไม่ยืนหรือนั่งในลักษณะที่เสี่ยงต่อการหล่นจากรถ

 2. จำกัดจำนวนคนนั่งท้ายกระบะ ไม่เกิน 6 คน

เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมน้ำหนักของตัวรถ แนะนำให้มีผู้โดยสารท้ายกระบะไม่เกิน 6 คน เพราะหากมีมากกว่านี้ นอกจากจะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังอาจผิดกฎหมายว่าด้วยเรื่องการใช้รถบรรทุกคนเกินกำหนด

ข้อควรระวัง : บางพื้นที่อาจมีกฎหมายท้องถิ่นที่ระบุจำนวนคนได้ไม่เท่ากัน ควรตรวจสอบให้แน่ชัดในพื้นที่ที่เราจะเดินทางด้วย

 3. ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.

แม้ว่าสงกรานต์จะเป็นช่วงที่รถไม่ค่อยติดในบางเส้นทาง แต่หากมีผู้โดยสารท้ายกระบะอยู่ การขับรถเร็วเกินไปจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงหากมีการเบรกกะทันหันหรือเกิดอุบัติเหตุ

ตำรวจจราจรมีการตั้งจุดตรวจหลายแห่งในช่วงสงกรานต์ หากพบรถที่ขับเร็วเกินกำหนดหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง อาจถูกเรียกตรวจและปรับได้

 4. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์บนรถเด็ดขาด

สงกรานต์กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักมาคู่กัน แต่กฎหมายจราจรและ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551 ระบุชัดว่า “ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในรถ ไม่ว่ารถจะขับหรือจอดอยู่ในที่สาธารณะ”

โดยเฉพาะ ผู้ขับขี่ หากตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย จะมีโทษทั้งปรับและอาจถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ ส่วนผู้โดยสาร แม้จะนั่งเล่นน้ำอยู่ท้ายรถ หากมีขวดเบียร์หรือเหล้าติดมือ ก็มีสิทธิ์โดนตรวจสอบและปรับเช่นกัน

5. ห้ามใช้อุปกรณ์เล่นน้ำที่เป็นอันตราย

แม้จะเป็นเทศกาลสาดน้ำ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรก็ได้ เช่น:

  1. ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง
  2. ถังน้ำแข็ง
  3. น้ำที่ผสมสารบางอย่าง (เช่น แป้ง เย็น หรือกลิ่นฉุน)
  4. บอลน้ำหรือโป่งน้ำ

สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คนอื่นบาดเจ็บ ระคายเคือง หรือได้รับผลกระทบในทางร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ใช้รถใช้ถนน หรือคนที่ไม่ได้อยากเล่นน้ำด้วย

6. ห้ามเล่นน้ำบนถนนที่มีประกาศห้าม

ในหลายเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น หรือพัทยา อาจมีการประกาศ “เขตห้ามเล่นน้ำ” บางพื้นที่ เช่น ถนนที่มีรถวิ่งพลุกพล่าน จุดเสี่ยง หรือย่านธุรกิจ

หากยังฝ่าฝืนเข้าไปเล่นน้ำ อาจถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปพูดคุย หรือมีโทษปรับตามประกาศของท้องถิ่น

 7. ต้องมีสติ ไม่เล่นน้ำแบบรุนแรงหรือเกินเลย

การเล่นน้ำสงกรานต์คือการแสดงออกถึงความสุขและความสนุก แต่บางคนอาจเล่นแรงเกินพอดี เช่น ปาโป่งน้ำใส่หน้าคนเดินถนน ฉีดน้ำใส่มอเตอร์ไซค์ หรือแหย่คนแปลกหน้าเกินความเหมาะสม

สิ่งเหล่านี้นอกจากจะเสี่ยงผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุและภาพลักษณ์ไม่ดีต่อเทศกาลอันดีงามของไทยอีกด้วย

แบบสั้นๆ ถ้าคุณจะนั่งท้ายกระบะเล่นน้ำสงกรานต์

  1. นั่งเฉพาะในกระบะ ห้ามปีนขอบหรือหลังคา
  2. ไม่เกิน 6 คน
  3. ขับไม่เกิน 60 กม./ชม.
  4. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์บนรถ
  5. ใช้อุปกรณ์เล่นน้ำที่ปลอดภัย
  6. หลีกเลี่ยงถนนที่ห้ามเล่นน้ำ
  7. เล่นน้ำอย่างมีสติ ไม่ล่วงละเมิดหรือสร้างความเดือดร้อน

 สงกรานต์นี้ขอให้ทุกคนสนุก ปลอดภัย และมีความสุขแบบไร้กังวล! เล่นน้ำให้เต็มที่ แต่อย่าลืม “เคารพกฎหมายและคนรอบข้าง” ด้วยน้า สุขสันต์วันสงกรานต์ 2568