ครม. เคาะร่างกฎกระทรวงใหม่! ต่อใบขับขี่รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ เตรียมยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เตรียมพร้อมสู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ
แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถต่อใบขับขี่ทางออนไลน์ได้ แต่ล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้ไฟเขียวร่างกฎกระทรวงที่มุ่งพัฒนาไปสู่การให้บริการแบบดิจิทัล ลดภาระของประชาชนที่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานขนส่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนต่ออายุใบขับขี่
ปัจจุบัน การต่อใบขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ยังคงต้องดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่ง โดยมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่าย แต่เมื่อกฎกระทรวงฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะเปลี่ยนแปลงวิธีการต่ออายุใบขับขี่ไปอย่างมาก
ประเด็นหลักของร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้มี 3 ข้อสำคัญ
- ยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ หากอยู่ในช่วงอายุและมีสภาพร่างกายเป็นไปตามเกณฑ์ที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกจะประกาศไว้ (ยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด) - ยังคงต้องทดสอบสมรรถภาพในบางกรณี
หากไม่เข้าเกณฑ์ตามที่กำหนด เช่น อายุเกิน หรือมีเงื่อนไขเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย ผู้ยื่นขอต่อใบขับขี่จะต้องเข้ารับการทดสอบปฏิกิริยาและสายตา รวมถึงผ่านการอบรมตามที่กำหนด - เริ่มบังคับใช้ภายใน 90 วัน
หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำรายละเอียดและเงื่อนไข
ในระหว่างนี้ ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ ยังคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนปกติไปก่อน จนกว่าประกาศฉบับใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
การอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่หรือใบขับขี่หมดอายุ สามารถเข้ารับการอบรมผ่านระบบออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ dlt-elearning.com ยกเว้นกรณีเปลี่ยนจากใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี เป็น 5 ปี (กรณีใบขับขี่ไม่หมดอายุเกิน 1 ปี จะไม่ต้องอบรม)
ประเภทใบขับขี่ที่สามารถอบรมออนไลน์ได้
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล, รถยนต์, รถสามล้อ
- รถขนส่งทุกชนิด (ประเภท 1-4)
- รถสาธารณะทั้งประเภทจักรยานยนต์, รถยนต์สามล้อ, รถยนต์ทั่วไป
- ใบขับขี่ที่ขาดต่อเกิน 1 ปี หรือสิ้นอายุเกิน 3 ปีในบางกรณี
ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
- เข้าสู่เว็บไซต์ dlt-elearning.com และลงทะเบียนผู้ใช้งาน
- เลือกหลักสูตรอบรม ตามประเภทใบขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ:
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (1 ชม.)
- รถยนต์/รถสามล้อส่วนบุคคล (1 ชม.)
- กรณีขาดต่อเกิน 1 ปี (2 ชม.)
- รถขนส่ง/ใบขับขี่ชนิดที่ 1-4 (2 ชม.)
- รถสาธารณะ (3 ชม.)
- ทำแบบสอบถามก่อนอบรม
- ชมวิดีโอบรรยายให้ครบตามเวลา
- ทำแบบทดสอบหลังจบการอบรม
- บันทึกหน้าจอผลการอบรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานแนบตอนดำเนินการต่อใบขับขี่
สรุป ระบบต่อใบขับขี่ออนไลน์ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที หากกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ตามกำหนด ประชาชนจะสามารถเข้าถึงบริการที่สะดวกขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของการเป็นรัฐบาลดิจิทัล (e-Government) ได้อย่างแท้จริง