มาทำความรู้จักกับระบบเกียร์อัตโนมัติ หรือเรียกกันทั่วไปว่า เกียร์ออโต้ (Automatic Gear) จะสังเกตุได้ว่า จะมีสัญลักษณ์ตัวย่อภาษาอังกฤษต่างๆ ว่าอักษรย่อเหล่านั้นย่อมาจากอะไร ใช้งานอย่างไรในการขับขี่
เกียร์ P ย่อมาจาก Parking ซึ่งแปลว่า “จอด” ทำหน้าที่สำหรับจอดเป็นระยะเวลานานหรือจอดรถทิ้งไว้โดยการล็อคล้อ ไม่ให้เคลื่อนที่ หรือหากจอดในทางลาดชัน ก็ควรดึงเบรคมือประกอบด้วย เพื่อรักษาระบบเกียร์
เกียร์ R ย่อมาจาก Reverse ซึ่งแปลว่า “ย้อนกลับ” หรือถอยนั่นเอง เมื่อเข้าเกียร์นี้แล้วรถจะวิ่งถอยหลัง หากเหยียบคันเร่งก็จะเร่งความเร็วถอยหลังด้วย
เกียร์ N ย่อมาจาก Nature แปลว่า เป็นกลาง หรือเรียกกัน เกียร์ว่างนั่นแหละ เมื่อเข้าเกียร์นี้รถจะไม่มีการขับเคลื่อน แต่สามารถขยับหรือเข็นรถได้ ไว้สำหรับจอดแบบชั่วคราว อย่างติดไฟแดง หรือ จอดซื้อของข้างทาง
เกียร์ D หรือ D4 ย่อมาจาก Drive แปลว่า ขับ คือการขับเดินหน้า เมื่อเข้าเกียร์นี้รถจะเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ เหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วตามรอบ รถจะเปลี่ยนเกียร์ให้เองอัตโนมัติ
เกียร์ D2 เป็นการขับเดินหน้า 2 สปีด ใช้ในการขับขึ้นลงเนินที่ค่อนข้างลาดชัน อย่างเช่น ขึ้นเขาหรือทางขึ้นลาดจอดรถในห้าง
เกียร์ D3 เป็นการขับเดินหน้า 3 สปีด ใช้ในการขับขึ้นลงเนินที่ไม่ลาดชันมาก อย่างเช่น ขึ้นสะพาน และใช้เร่งแซง
เกียร์ L ย่อมาจาก Low แปลว่า ต่ำ นั่นก็คือรอบเกียร์ต่ำนั่นเอง ใช้ในการขับขึ้นเขาลงเนินที่ลาดชันมากๆ ต้องการแรงขับเคลื่อนสูง
เกียร์ S ย่อมาจาก Sport เมื่อเข้าเกียร์นี้รถจะเร่งรอบขับให้สูงขึ้น ไว้ใช้สำหรับขับเร่งแซง หรือขึ้นทางลาดชันไม่มาก
เกียร์ B ย่อมาจาก Brake แปลว่า เบรค นั่นไม่ได้หมายความว่าเราใช้เกียร์นี้ในการเบรครถนะครับ เกียร์นี้ไว้สำหรับขึ้นทางลาดชันเหมือนเกียร์ L
ทีนี้ก็เข้าใจกันแล้วนะครับว่าระบบเกียร์อัตโนมัติต่างๆ แต่ละตัวอักษรหมายความว่าอย่างไรและลักษณะการใช้งานอย่างไรเมื่ออยู่บนท้องถนน ยังไงก็ใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ขับขี่นะครับ ฝากทิ้งท้ายกับ กฤษฎากู๊ดคาร์ โชว์รูมรถมือสองย่านบางแค เราไม่ได้ขายเพียงแค่รถ แต่เราขาย “ความจริง” ให้กับลูกค้า
www.kitsadagoodcar.com