สาระน่ารู้ » ฟิล์มติดรถยนต์แบบไหนที่เหมาะกับคุณ มือใหม่หัดเลือก

ฟิล์มติดรถยนต์แบบไหนที่เหมาะกับคุณ มือใหม่หัดเลือก

20 พฤษภาคม 2022
619   0

ฟิล์มติดรถยนต์กลายมาเป็นอุปกรณ์รถยนต์ที่ขาดไม่ได้สำหรับบ้านเรา นอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ตกแต่งเพื่อความสวยงามและยังเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดรังสีความร้อนของแดดและยังช่วยรักษาอุปกรณ์ภายในรถยนต์จากความร้อนของแรงแดดให้เสื่อมช้าลง
และในปัจจุบัน ฟิล์มติดรถยนต์กรองแสงนั้นก็มีหลากหลายแบบให้เราได้เลือก แตกต่างทั้งชนิด คุณภาพ และราคา อีกด้วย ฉะนั้น สำหรับมือใหม่อาจจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจชนิดและประสิทธิภาพของแต่ละประเภท ว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณนะครับ

1. ฟิล์มกรองแสงแบบปกติ (Dyed Window Tint)

ฟิล์มประเภทนี้จะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฟิล์มกรองแสงแบบย้อมสี” สามารถกรองแสงจากดวงอาทิตย์ให้มีความเข้มที่ลดน้อยลง และยังสามารถสะท้อนรังสีได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ก็ยังไม่สามารถลดเรื่องของความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของฟิล์มกรองแสงประเภทนี้ ยังไม่สามารถลดแสงสะท้อนจากภายนอกได้ดีเท่าไหร่นัก และยังมีอายุการใช้งานที่น้อยและสั้นกว่าประเภทอื่นๆทำให้ฟิล์มกรองแสงแบบนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก

2. ฟิล์มลดความร้อนประเภทไอโลหะ (Metalized Window Tint)

ฟิล์มความร้อนประเภทไอโลหะหรือโดยทั่วๆไปมักจะเรียกกันว่า ฟิล์มปรอท โดยตัวฟิล์มจะมีการเคลือบผิวด้วยไอโลหะต่างๆ ให้มีความันวาวและเมื่อมองจากด้านนอก จะไม่เห็นด้านใน ฟิล์มประเภทนี้มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าฟิล์มปกติทั่วๆไป โดยจุดเด่นของฟิล์มประเภทนี้ อยู่ที่การสะท้อนรังสี และความร้อนจากภายนอก และยังสามารถลดความร้อนที่สะสมภายในห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และยังมีคุณสมบัติลดแสงจ้าทำให้สบายตาในเวลากลางวัน
แต่ฟิล์มประเภทนี้ก็ยังมีข้อเสียในเรื่องของ ทัศนะวิสัย เพราะจะมีความเหลือมของสีเมื่อมองจากภายในสู่ภายนอก ความคมชัดในเรื่องของแสงไฟในเวลากลางคืน และการส่งผ่านของของสัญญาณต่างๆ เช่น เคลื่อนวิทยุ GPS สัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมไปถึง สัญยาณ Easy Pass ทางด่วนอีกด้วย

3. ฟิล์มประเภทคาร์บอน (Carbon Window Tint)

ฟิล์มประเภทคาร์บอน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “นาโนคาร์บอน” จะนำเอาโมเลกุลคาร์บอนมาผสมไว้ใยเนื้อฟิล์มโดยมีวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับเนื้อฟิล์ม โดยวัตถุประสงค์นั้นจะคล้ายๆกับฟิล์มโลหะ นั่นคือการลดแสงสะท้อนรังสีลดความร้อนถึง 40% แม้ว่าหลังจากติดฟิล์มประเภทนี้จะทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก แต่ภายในนั้นมีความใสและสว่างกว่าแบบปรอทและยังไม่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องอับสัญญาณต่างๆ จึงเป็นที่นิยมของตลาด

ส่วนข้อเสียของฟิล์มประเภทนี้ นั้นคือความคมชัดใสในเวลากลางคืนจะน้อยกว่าเซรามิค ฉะนั้นหากคนแต่ถ้าหากยิ่งอยู่ในช่วงหมดอายุก็จะทำให้ยิ่งเห็นทัศนวิสัยได้ไม่ชัดยิ่งขึ้น

4.ฟิล์มเซลรามิค (Ceramic Window Tint)

ฟิล์มกรองแสง เซรามิค หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “นาโนเซรามิค” เป็นการนำเอาอนุภาคขนาดจิ๋วของเซรามิคมาเป็นชั้นเคลือบฟิล์ม ฟิล์มประเภทนี้จะให้ความใสและเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืนกว่า ประเภททคาร์บอน อีกทั้งยังดูสะอาดตา และยังกัยรังสี UV ได้ถึง 99% กันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับฟิล์มประเภทอื่นที่มีความเข้มที่เท่ากัน ฟิล์มประเภทนี้ จะไม่รบกวนกับสัญญาณดิจิตอลต่างๆ และความพิเศษของฟิล์มประเภทนี้ คืออายุการใช้งานยาวนาน และฟิล์มประเภทนี้จะมีความมืดทึบเมื่อมองจากด้านนอกลดโอกาศในการถูกโจรกรรมได้ยิ่งขึ้น

และในส่วนของข้องเสียของฟิล์มประเภทนี้ คือในเรื่องของราคาที่สูงนั่นเอง

5.ฟิล์มคาร์บอน-เซรามิค (Carbon-Ceramic Window Tint)

และนอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีฟิล์มอีกหนึ่งประเภท คือ คาร์บอน-เซรามิค ฟิล์มประเภทนี้ เป็นลูกผสมระหว่างฟิล์ม ทั้งสองของประเภทมารวมไว้ด้วยกัย เมื่อมองจากภายนอกแล้วจะมีความเข้มและมืดกว่าฟิล์มแบบอื่นๆ และความทึบก็จะช่วยในเรื่องความเสี่ยงของการโจรกรรม ทรัพย์สินที่มีค่าภายในรถนอกจากนั้นแล้วการเพิ่มส่วนของคาร์บอนจะช่วยในเรื่องของการสะท้อนของแสงจากภายนอกอีกด้วย


ทั้งหมดนี้ก็เป็นจุดเด่นและจุดด้อยของฟิล์มแต่ละประเภท ฟิล์มที่ดีจะตัองมีประสิทธิภาพในการกรองแสง และ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าหากคุณเลือกฟิล์มที่ไม่ตรงใจก็จะทำให้สิ้นเปลืองเม็ดเงินเพื่อติดใหม่ฉะนั้น การศึกษาหาข้อมูลเรื่องฟิล์มติดรถยนต์ก่อนก็ถือว่าสำคัญทำให้คุณมั่นใจในการเลือกฟิล์มยิ่งขึ้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และประสิทธิภาพอีกด้วย

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม