สำหรับ Honda Civic โฉมปี 2019 ได้ทำการไมเนอร์เช้นจ์เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูสวยงานขึ้น และว่างจำหน่ายไปแล้วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ถ้าพูดถึง Honda Civic ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มียอดขายที่ดีที่สุดของทางบริษัทฮอนด้า เพราะยอดขายรวมตั้งแต่ Gen 1-10 มียอดขายรวมอยู่ที่ 25.6 ล้านคันสิ้นสุดที่ปี 2018
แต่ถ้าพูดถึงโฉมปัจจุบันของ ฮอนด้า ซีวิค ยอดขายในประเทศไทยอยู่ที่ 7 หมื่นกว่าคัน ถือว่าในกลุ่ม C-Segment ยอดขายกินไปถึง 50% กันเลยทีเดียว
Honda Civc ตัวนี้เปิดตัวครั้งแรกที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปช่วงปลายปี 2018 นอกจากภายนอกที่มีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมนิดหน่อย จุดเด่นที่นำเสนอคือระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีอยู่ใน Honada Accord โฉมปัจจุบัน ซึ่งจะมีติดตั้งอยู่ในรุ่นท๊อปสุดอย่างตัว Turbo RS เท่านั้น
ในส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมานั้น ตัว Turbo RS กระจังด้าหน้าออกแบบใหม่จะมีสัญลักษณ์ RS สีแดง คิ้วของไฟตัดหมอกเป็นสีเปียโนแบล็ก กันด้านหลังเสริมหล่อด้วยแถบโครเมียม เสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม และที่ขาดไม่ได้ล้อแม็กอัลลอยสีใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ในส่วนของรุ่น 1.8EL กันชนด้านหน้าถูกออกแบบใหม่ ไฟตัดหมอกคู่หน้าเสริมด้วยโครเมียม แถบกันชนด้านหลังติดแถบโครเมียมเพิ่มมาให้ดูสวยยิ่งขึ้น ล้อแม็กอัลลอยออกแบบลายใหม่ทำให้สวยสุดตายิ่งขึ้นขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารแผงคอนโซลหน้าถูกออกแบบใหม่ เบาะก็ได้รับการตกแต่งใหม่ แต่ในรุ่น RS เบาะจะเสริมตะเข็บด้วยสีแดงทำให้สปอร์ตมากขึ้น เครื่องเสียงเป็นแบบหน้าจอทัชสกรีนเพิ่มปุ่ม Volume ขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานจริงได้สะดวกยิ่งขึ้น
สิ่งที่ถูกเสริมขึ้นมาคือ Honda Sensing ที่มาเฉพาะตัว Turbo RS เท่านั้นจะมีทั้งหมด 5 ฟังชั่น
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องเดินรถ
- ระบบเตือนและควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามคันหน้า
- ระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ
ข้อดีของระบบ Honda SENSING คือระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามคันหน้า เป็นระบบปรับความเร็วตามคันหน้าที่ความเร็วต่ำ โดยผู้ขับขี่จะสามารถล็อกความเร็วตามปกติหลักการใช้งานจะเหมือนกับ Criuse Control หากรถคันหน้าขับช้ากว่าระบบก็จะปรับความเร็วรถให้เท่ากับคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ
ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 รุ่น
เครื่องยนต์ของทาง 1.8EL จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC 1800 cc. แรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า (PS) ที่ 6500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ที่ 4300 รอบต่อนาที เกียร์เป็นแบบ CVT
เครื่องยนต์ของทาง Turbo RS จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC 1500 cc. แรงม้าสูงสุด 173 แรงม้า (PS) ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1700-5500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT
ความแตกต่างจากรุ่นก่อนไมเนอร์เช้นจ์ไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนไม่ว่าจะเป็นในเรื่องกำลังเครื่องอัตราเร่งไม่ต่างกันเลย แต่ถ้าพูดถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมาก็คุ้มค่า ใครกำลังตัดสินใจเลือกซื้อลองพิจารณาดูครับ