MG Electric 2022 ประกาศเตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในโซนยุโรป ช่วงต้นปี 2022 ที่จะถึงนี้ ปรับดีไซน์หน้าตาล้ำสมัย มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้สามารถขับได้ไกลถึง 440 กม. ต่อการชาร์จเพียงแค่ 1 ครั้ง
MG5 Electric เป็นฝาแฝดเวอร์ชั่นยุโรปของ MG EP ทำมีการวางขายในบ้านเรา ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ MG 5 ที่วางขายในตลาดโดยมีการปรับโฉมให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าช่องระบายพร้อมไฟหน้าขนาดใหญ่ ไฟ LED Daytime Runing Light พร้อมระบบควบคุมการ ปิด-เปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบเซนเซอร์หน้ากันชนที่ถูกซ่อนไว้บริเวณใต้ป้ายทะเบียน
ในรุ่นนี้จะมีล้ออัลลอย์ดขนาด 16 และ 17 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย และเสริมความแช็งแรงที่แร็คหลังคา สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดที่ 75 กก.
ในส่วนของด้านท้ายปรับเปลี่ยนลุคจากเดิมเป็นแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยการดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยและหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้วยตัดเส้นสายด้วยโครเมี่ยมเชื่อทททั้ง 2 ฝั่งไฟท้ายรูปทรง Y แนวนอนเสริมลวดลายด้วยเส้นก้างปลา ให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3
ภายในตกแต่งด้วยสีแบบทูโทนที่ทาง MG ใช้ชื่อเรียกว่า EcoBLUE ซึ่งเน้นในการใช้สอยกว้างขวางและเทคโนโลยี EV ล้ำสมัย แผงแดชบอร์ดสีขาวสะอาดตาตัดด้วยเส้นสายสีฟ้าให้ดูมีความเป็น EV ล้ำสมัยมากขึ้นช่องแอร์ตกแต่งด้วยแผงสีฟ้า แต่พวงมาลัยยังเป็นพวกมาลัยรูปแบบเดิมๆหน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมกับระบบ อิโฟเทนเมนต์ IPS HD แบบสัมผัส Touch Screen 10.25 i-Smart เวอร์ชั่นที่ติดต่ออุปกกรณ์สืื่อสารให้เข้ากับรถยนต์ สามารถสั่งการด้วยเสียง รับบบปรับอุณภูมิ อัตโนมัติพร้อมตัวกรอง PM 2.5
คอนโซลกลางเป็นแบบลอยตัว ลดการใช้ปุ่มควบคุมต่างๆ มีเพียงที่ปรับเปลี่ยนเกียร์ที่เป็นแบบหมุน ในส่วนที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความกว่างขวางถึง 479 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง สามารถขยายได้ถึง 1,367 ลิตร เลยทีเดียว
ในส่วนของเครื่องยนต์ MG Electric 2022 ในรุ่นนี้จะมีให้เลือกถึง 2 ขนาดด้วยกัน เริ่มจากรุ่นแริ่มต้น Comfort ที่มากับแบตเตอรี่ Lithium iron Phosphate 50.3 kWh จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 130 kW หรือ 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร เมื่อชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง สามารถวิ่งไกลได้สูงสุด ตามมาตรฐาน WLTP ในด้านอัตราเร่ง 0-100 กม. ใน 8.5 วินาที
ส่วนในรุ่น Luxury จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium Nickel Manganese Cobalt ขนาด 61.1 kWh ให้ระยะทาทงถึง 400 กม. ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าระดับความแรง 154 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร สามารถทำได้ถึง 8.3 วินาททีเท่านั้น ส่วนความเร็วสูงสุดจะถูกกำหนดที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และนอกจากนี้ MMF Electric 2022 ยังมีพละกำลังในการลากจูง อยู่ที่ 500 กิโลกรัม
MG ZS EV 2022 ยังมากับระบบชาร์จที่ติดตั้งระบบ AC Fast Charging แบบ 3 เฟส ขนาด 11 kW ที่จะใก้กำลังไฟฟ้าขนาด 30-80% ในเวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ส่วนถ้าชาร์จไฟ AC ขนาด 7kW จะชาร์จ เต็มในเวลา 9 ชม. และสามารถปล่อยกระแสเพื่อชาร์จไฟอุปกรณ์ที่ด้านนอกได้อีกด้วย
MG Electric 2022
ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัย Mg Pilot เต็มรูปแบบเหมือนรุ่นที่ผ่าน เช่น ระบบ ควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเปิด ปิดไไฟสูงอัตโนมัติ ระบบความคุมความเร็วในการขับขี่และปรับความเร็วอัตโนมัติ ระบบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่ือความเร็วต่ำ ระบบช่วยควบคุมรถุให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ระบบช่ววยเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน และกล้อง 360 องศารอบคัน
ด้านราคาของทาง MG ยังไม่เปิดเผยตัวเลขออกมา เพียงแต่คาดว่าราคาน่าจะต่ำกว่า 30,000 ยูโร หรือประมาณราวๆ 1.1 ล้านยาทท และจะเริ่มลงโชว์รุมอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ส่วนในบ้านเรา MG EP 2021 รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Station Wagon นั้นพึ่งจะได้รับในการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2020 ในเวอร์ชั่นใหม่นี้คาดว่าคงต้องรอไปอีกซักหน่อย
แฟนๆเกม Gran Turismo Series เตรียมตัวตั้งหน้าตั้งตารอเวอร์ชั่นเต็มอย่างใจจดใจจ่อ โดยจะเปิดในวันที่ 4 มีนาคม 2022 นี้
หากต้องการรถมือสองสภาพดี สามารถติดต่อสอบถามหรือปรึกษาทุกปัญหาการจัดไฟแนนซ์ได้ที่ https://www.kitsadagoodcar.com/